
Synduality Noir SS2 เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Mixed‑Media Synduality ของ Bandai Namco ที่รวมทั้ง อนิเมะ, เกม, มังงะ และ ไลต์โนเวล ด้วยกัน หลังจากช่วง 12 ตอนแรก ได้ถูกฉายออกอากาศทีวี ช่วงครึ่งหลังได้กลับมาอีกครั้งในซีซั่นใหม่ืที่พร้อมจะฉายเรื่องราวช่วงหลังที่เหลือ
การประกาศสร้างอนิเมะ
อนิเมะแฟรนไชส์ Synduality ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Mixed‑Media ของ Bandai Namco ถูก ประกาศสร้างอนิเมะแบบทีวีซีรีส์ ใน เดือนกันยายน 2022 ภายใต้ชื่อ Synduality: Noir
งานประกาศสำคัญถือเป็นส่วนหนึ่งของการเผยโปรเจกต์ Synduality ซึ่งรวมถึงเกม Echo of Ada โดยมีนักพัฒนา Bandai Namco Filmworks และ Studio 8bit ร่วมผลิต
สตูดิโอและทีมผู้สร้าง
อนิเมะ Synduality: Noir ผลิตโดย Bandai Namco Filmworks และขับเคลื่อนงานแอนิเมชันโดย Studio 8bit
กำกับคือ Yusuke Yamamoto และแต่งบทโดย Takashi Aoshima จากร่างเรื่องโดย Hajime Kamoshida ด้าน Kenichirō Katsura รับผิดชอบการออกแบบตัวละคร, และ Masato Nakayama เป็นผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ
ช่วงเวลาที่ฉาย และจำนวนตอน
ประกาศในงาน Tokyo Game Show ประมาณ 24 กันยายน 2023 ว่า Part 2 จะฉายในเดือนมกราคม 2024
ออกอากาศระหว่าง 9 หรือ 8 มกราคม 2024 จนถึง 26 มีนาคม 2024 รวม 12 ตอน และเมื่อร่วมสองซีซั่นจะกลายเป็น 24 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมและคะแนนโดยรวม
Anidb/Toramp ให้คะแนนเฉลี่ยทั้งหมดของอนิเมะอยู่ที่ 7.72 จากผู้โหวตหลายสิบคน
แม้จะยังไม่มีรีวิวเชิงลึกจากนักวิจารณ์เกรด A แต่ผู้ชมทั่วโลกส่วนใหญ่ชื่นชมเนื้อหา, ฉากแอ็กชัน และการพัฒนาของตัวละครใน Part 2 ทั้ง Noir, Kanata และ Weissheit
ใน Synduality: Noir Part 2 เหตุการณ์ดำเนินต่อจากภาคแรกหลังจากการล่มสลายของ Amasia เมื่อปี 2222 จนมนุษย์กระจายออกมาด้านนอกสู่โลกเปิดและต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดชื่อ Enders และภัยจากระบบ AI อย่าง Magus
ในภาคสอง ความตึงเครียดระหว่างคนและ Magus ยังคงเพิ่มขึ้น เมื่อกลุ่ม Drifter อย่าง คานาตะ (Kanata) และ Magus ชื่อ โนวร์ (Noir) เดินทางสู่แหล่งใหม่ ๆ บนพื้นโลก พวกเขาต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น และค้นหาคำตอบเกี่ยวกับหัวใจและจิตวิญญาณของ Magus ท่ามกลางความขัดแย้งภายในระหว่างความเป็น AI และ “ความเป็นมนุษย์”
ภาคสองเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และมีฉากต่อสู้ที่ทั้งดุเดือดและลึกซึ้งมากขึ้น โดยยังคงเอกลักษณ์ของแอ็กชั่นเมคะ และเน้นให้เห็นถึงการเติบโตภายในจิตใจของคานาตะและโนวร์ รวมถึงจุดยืนที่เหนียวแน่นขึ้นของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติและ AI
แนะนำ ตัวละครหลัก ใน Synduality: Noir Part 2
โนวร์ (Noir)
โนวร์เป็น Magus หญิงหลักในเรื่อง เป็นตัวเอกและจิตวิญญาณหลักของภาค Noir เธอตื่นจากการจำศีลโดยไม่รู้จักอดีต และมีลักษณะ “คลังเคตสุ” (clunker) ที่มักสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย แต่กลับมีทักษะสูงสุดในสนามรบกับ Cradle Coffin ความโดดเด่นของโนวร์อยู่ที่เธอเป็นผู้นำด้านความรู้ทาง Magus และเป็นศูนย์กลางของอารมณ์ซีซั่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อฝังตัวเข้ากับตัวละครอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้เธอเติบโตในด้านทั้งจิตใจและทักษะการต่อสู้ตลอด Part 2
คานาตะ (Kanata)
คานาตะเป็น Drifter หนุ่มผู้ปรารถนากลายเป็นนักสำรวจเต็มตัว เขามีบุคลิกใจดี ยึดมั่นในความเป็นมนุษย์ และคอยสนับสนุนโนวร์อย่างไม่เสื่อมคลาย แสดงในลักษณะ “เป็นดั่งพี่ชาย” และนักพัฒนาอารมณ์เชิงบวกในกลุ่ม การเดินทางร่วมกันของเขากับโนวร์สร้างเส้นทางสำคัญให้ทั้งสองได้เรียนรู้และเติมเต็มคุณภาพการเป็นมนุษย์และ Magus พร้อมกับความสัมพันธ์ที่น่าจับตามองในภาคนี้
ไวส์ไฮต์ (Weisheit)
ไวส์ไฮต์เป็นตัวร้ายหลักใน Part 2 ซึ่งนำเสนอแนวคิดสุดโต่งโดยหวาดกลัวว่า Magus (AI) จะลุกขึ้นมาควบคุมมนุษย์ เขามีความเชื่อมั่นแน่วแน่ว่านี่คือหนทางเดียวที่มนุษยชาติจะรอด
มิสเตอเร (Mystere)
มิสเตอเรปรากฏตัวเป็นอีกมิติหนึ่งของโนวร์ เมื่อโนวร์พัฒนาไปลึกขึ้น เธอสามารถสลับตัวเองกับบุคลิกที่นุ่มนวลแต่มั่นคงของมิสเตอเรได้ ในบางฉาก Mystere นำเสนอตัวตนที่เชื่อมั่นในเป้าหมายของเธอ ความร่วมมือกับคานาตะและโนวร์รอบนี้ช่วยสร้างความซับซ้อนด้านอารมณ์และการพัฒนาบุคลิกภาพร่วมกันของทั้งสาม
เซียล (Ciel)
เซียลเป็น Magus ซึ่งปรากฏตามมาในช่วง Part 2 โดยได้รับมอบหมายจากองค์กร IDEAL นำโดยไวส์ไฮต์ เพื่อสอดแนมโนวร์และคานาตะ แต่สุดท้ายกลับได้รับอิทธิพลเชิงบวกจากคานาตะจนเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงอารมณ์และจิตใจ บทของเซียลช่วยสร้างมิติ “ความขัดแย้งภายใน” ให้เรื่อง และคลี่คลายแนวคิดของไวส์ไฮต์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Synduality: Noir Part 2 คือบทสรุปของอนิเมะแฟรนไชส์ไซไฟ‑เมคะที่ผสานความดราม่า ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และ AI ได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยการดำเนินเรื่องที่ต่อเนื่องจากภาคแรก สู่เนื้อหาที่เข้มข้นมากขึ้น ทั้งในแง่ของแอ็กชัน การพัฒนาตัวละคร และประเด็นทางปรัชญาที่ท้าทายผู้ชม โดยเฉพาะการตั้งคำถามว่า “จิตใจ” ของ AI นั้นควรถูกยอมรับหรือกลัว?
ตัวละครหลักอย่าง โนวร์ และ คานาตะ แสดงพัฒนาการอย่างชัดเจนในฐานะคู่หูที่ต้องร่วมกันต่อสู้และทำความเข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ตัวร้ายอย่าง ไวส์ไฮต์ ก็มีมิติที่ชวนให้ตั้งคำถามต่อสิ่งที่เรียกว่า “ความถูกต้อง”
นอกจากเนื้อหาแล้ว งานภาพจากสตูดิโอ 8bit ยังโดดเด่นด้วยการใช้ CGI อย่างมีคุณภาพ ฉากต่อสู้ของ Cradle Coffin ให้ความรู้สึกถึงความหนักแน่นและสมจริง ส่วนดนตรีประกอบก็ช่วยเสริมอารมณ์ให้ทุกฉากมีพลังยิ่งขึ้น
แม้อนิเมะจะจบลงที่ 24 ตอน แต่แฟรนไชส์ Synduality ยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีเกม Synduality: Echo of Ada, มังงะ และไลต์โนเวลที่กำลังจะวางจำหน่ายในอนาคต ทำให้แฟน ๆ ยังคงสามารถติดตามโลกของ Synduality ได้ต่อไป