
NieR Automata ซับไทย อนิเมะจากเกมแนวแอคชั่น-สวมบทบาท ยอดนิยมในวงการเกมทั่วโลกด้วยเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง ปรัชญาอันซับซ้อน และการออกแบบตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหุ่นแอนดรอยด์สาวอย่าง 2B และ 9S
ด้วยความนิยมจากทั่วโลก จึงได้ประกาศโปรเจกต์อนิเมะดัดแปลงจากเกมภายใต้ชื่อ “NieR:Automata Ver1.1a” โดยร่วมมือกับสตูดิโอยักษ์ใหญ่ในวงการ พร้อมได้ให้ผู้สร้างเกมต้นฉบับเข้าร่วมโปรเจกต์เพื่อดูแลการปรับเนื้อหาใหม่ในแบบที่ไม่เหมือนกับในเกม
ก่อนที่จะมาเป็นอนิเมะจากเกม
มีการประกาศสร้างอนิเมะจากเกม ครั้งแรกในการถ่ายทอดสดฉลองครบรอบ 5 ปีของเกม NieR: Automata
ซึ่งมีผู้สร้างเกมต้นฉบับ Yoko Taro ร่วมงานด้วย ในเดือนกันยายน 2022
ทีมงานสร้างและสตูดิโอผู้ผลิต
สตูดิโอแอนิเมชัน A‑1 Pictures รับหน้าที่ผลิต กำกับโดย Ryōji Masuyama ที่ทำงานร่วมกับ Yoko Taro ในการเขียนบท
ดนตรีโดยสตูดิโอ Monaca (ทีมเดียวกับเกมต้นฉบับ)
วันที่ฉาย ครั้งแรก ครั้งสุดท้าย และจำนวนตอน
ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 8 มกราคม 2023
และจบวันที่ 27 กันยายน 2024 รวมทั้งซีรีส์มีทั้งหมด 24 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์โดยรวม
การตอบรับของผู้ชมมีทั้ง “เสียงครึ่งบวกครึ่งลบ” ในช่วงแรก โดยมีข้อวิจารณ์เรื่องภาพ 3D ที่รู้สึก “ยังไม่ปัง” และการเล่าเรื่องที่คล้ายเกมต้นฉบับจนบางช่วงรู้สึกช้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านช่วงการเลื่อนฉายและดำเนินเรื่องต่อไป ผู้ชมก็ประทับใจกับการขยายมุมมองของตัวละคร ปรับเล่าเรื่องให้ลึกซึ้ง และผสมภาพ 3D กับเทคนิคแอนิเมชันได้ลงตัวมากขึ้น
NieR:Automata Ver1.1a ถูกวางฉากอยู่ในปี 11945 บนโลกหลังภัยพิบัติซึ่งมนุษย์ได้ลี้ภัยไปยังดวงจันทร์ หลังถูกกองทัพต่างดาวและจักรกลทำลายอารยธรรม พวกเขาจึงสร้างหน่วยแอนดรอยด์ชื่อ YoRHa เพื่อกลับมาปราบจักรกลและเรียกคืนโลกกลับมา
ตัวละครหลักประกอบด้วย 2B (แอนดรอยด์สายต่อสู้) และ 9S (แอนดรอยด์สายสแกนและวิเคราะห์) ทั้งคู่ถูกส่งลงไปยังโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจสอดแนมและสนับสนุนกลุ่มผู้คนที่เหลืออยู่ โดยดำเนินเรื่องผ่านภารกิจการสู้รบและพบปะกับกลุ่มตัวละครจากทั้งฝั่งแอนดรอยด์และจักรกล เช่น กลุ่มต่อต้าน (Resistance), นักวิทยาศาสตร์กลุ่มจักรกล, อดีตสมาชิก YoRHa ที่ล่วงหลง และจักรกลอวตารอย่าง Adam & Eve รวมทั้งตัวละครสำคัญอย่าง Pascal และ A2
แม้จะยึดกรอบโลกและตัวละครหลักของเกมต้นฉบับ แต่อนิเมะนี้เลือกปรับลำดับเหตุการณ์และใส่มุมมองใหม่ ๆ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อเสริมความชัดเจนในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร รวมถึงธีมเรื่องความเป็นมนุษย์ ความทรงจำ และการตั้งคำถามต่อการดำรงอยู่
สำหรับสไตล์การนำเสนอ อนิเมะใช้ภาพ CGI ผสมกับภาพในสไตล์ 2D แบบที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต การจัดโครงเรื่องดำเนินด้วยจังหวะที่สมดุล ไม่เน้นฉากฟิลเลอร์ และดนตรีจาก Monaca นำเสนอธีมดนตรีจากเกมอย่างลงตัว พร้อมสร้างเสียงธีมเปิด–ปิดใหม่ที่เข้ากับอารมณ์เรื่องได้อย่างดีเยี่ยม
2B (YoRHa No.2 Type B) เป็นแอนดรอยด์รุ่น “Battler” ผู้มีบุคลิกเยือกเย็น สุขุม และถือปฏิบัติภารกิจด้วยความมั่นคง เธอได้รับการรับรองว่าเป็น “2E” หรือรุ่น “Executioner” ซึ่งมีคำสั่งให้กำจัด 9S หากเขาค้นพบความจริงเบื้องหลัง YoRHa ความสัมพันธ์กับ 9S เป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง แม้เธอจะแสดงออกอย่างเฉียบขาด แต่ภาพรวมเผยให้เห็นความลึกซึ้งทางอารมณ์อย่างนุ่มลึก
9S (YoRHa No.9 Type S) เป็นแอนดรอยด์สาย “Scanner” ผู้สนใจใคร่รู้ มีความช่างพูดและเปิดเผยต่างจาก 2B ผู้ซึ่งเขาทำงานร่วมกันในภารกิจสำรวจโลก และได้เจอกับกลุ่ม Resistance และจักรกลต่าง ๆ บุคลิกของเขาช่วยขยายมุมมองเรื่องการตั้งคำถามกับระบบ และช่วยให้เรื่องราวมีความหลากหลายด้านอารมณ์
A2 (YoRHa Type A No.2) คือแอนดรอยด์ต้นแบบรุ่นก่อนของ 2B ที่ถูกส่งเข้าปฏิบัติการเสี่ยงชีวิตในการทำลายเครื่องจักรท่ามกลางภารกิจเดี่ยว หลังจากภารกิจล้มเหลวเธอกลายเป็นผู้แปรพักตร์ วิ่งตามหาความยุติธรรมและแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับการหักหลังขององค์กร
Adam & Eve คือฝาแฝดจักรกลมนุษย์ที่ทำหน้าที่ควบคุมเครือข่าย Machine Network บนโลก Adam มีความสนใจมนุษย์และดูมีความเป็นเหตุเป็นผล ขณะที่ Eve มีความซุกซนและผูกพันกับพี่ชายของเขาในระดับลึก ตัวละครทั้งสองสะท้อนถึงความขัดแย้งด้านจิตสำนึกและวิวัฒนาการของจักรกลที่โหยหาความหมายในตัวเอง
Pascal เป็นผู้นำกลุ่มจักรกลที่เลือกใช้ชีวิตแบบสงบในหมู่บ้านที่แยกตัวจาก Machine Network เป็นผู้นำของกลุ่มจักรกลที่มีจิตสำนึกทางสังคมและเชื่อในสันติภาพ Pascal ช่วยสะท้อนด้านมนุษยธรรมของจักรกล และตั้งคำถามกับความหมายของชีวิต
NieR:Automata Ver1.1a คืออนิเมะที่สามารถถ่ายทอดบรรยากาศอันลึกซึ้งจากเกมต้นฉบับได้อย่างทรงพลัง ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยปรัชญาและการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ไปจนถึงการออกแบบตัวละครที่มีมิติและการเติบโตที่ชวนให้ติดตาม โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง 2B และ 9S ที่เป็นศูนย์กลางของเรื่อง
งานภาพและดนตรีจากสตูดิโอ A-1 Pictures และ Monaca ช่วยยกระดับอนิเมะเรื่องนี้ให้มีเอกลักษณ์ ทั้งการใช้โทนภาพที่หม่นเศร้าและการเรียบเรียงเพลงประกอบที่สอดรับกับบรรยากาศของเรื่องอย่างลงตัว แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาจากเกมในบางจุด แต่อนิเมะ Ver1.1a ก็สามารถนำเสนอเรื่องราวใหม่ที่ทั้งแฟนเกมและผู้ชมหน้าใหม่สามารถเพลิดเพลินได้