
Mahoutsukai no Yome 2 หรือในชื่อภาษาไทยว่า “เจ้าสาวผมแดงกับจอมเวทอสูร” (ภาค 2) เป็นอนิเมะภาคต่อที่หลังจากภาคแรกได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากแฟน ๆ ทั่วโลก เนื่องจากเนื้อหาเข้มข้น ลึกลับ ปนแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ พร้อมกับงานภาพที่งดงามและเต็มไปด้วยอารมณ์
อนิเมะภาคแรกฉายเมื่อปี 2017-2018 โดยสตูดิโอ WIT Studio และประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในด้านเรตติ้งและคำวิจารณ์ กระทั่งในปี 2022 มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า Mahoutsukai no Yome Season 2 จะได้รับการสร้างต่อ
ก่อนที่จะเป็นอนิเมะภาคต่อ: ประกาศสร้างจากมังงะสู่จอทีวี
ประกาศสร้าง อนิเมะ Season 2 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2022 พร้อมประกาศการผลิตโดย Studio Kafka ซึ่งก่อตั้งโดยทีมงานเดิมของ Wit Studio เพื่อทำ OAD ของ Mahoutsukai no Yome ก่อนแล้วจึงเข้ามารับผิดชอบ Season 2
สตูดิโอและทีมงานเบื้องหลังอนิเมะภาคต่อ
Studio Kafka รับหน้าที่ผลิตอนิเมะ แทน Wit Studio และนำทีมโดยผู้กำกับ Kazuaki Terasawa พร้อมทีมเขียนบท Aya Takaha, Yoko Yonaiyama, และ Chiaki Nishinaka เข้าร่วมเขียนบทในภาคนี้
กำหนดการฉายครั้งแรก ครั้งสุดท้ายและจำนวนตอนทั้งหมด
Season 2 แบ่งออกเป็นสองคอร์ โดยมีช่วงแรกออกอากาศตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน – 22 มิถุนายน 2023 และช่วงสองออกอากาศตั้งแต่วันนี้ 5 ตุลาคม – 21 ธันวาคม 2023 โดยแบ่งเป็นช่วงละ 12 ตอน โดยมีรวมทั้งหมด 24 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์
ผู้ชมตั้งคำถามเรื่องการเปลี่ยนสตูดิโอจาก Wit Studio ไปสู่ Studio Kafka แต่บทวิจารณ์ยืนยันว่า คุณภาพภาพและงานอนิเมชั่นไม่ลดลง และแทบดูไม่ออกว่าเปลี่ยนทีมผลิต ภาพรวมถือว่ารักษามาตรฐานดีเยี่ยมต่อเนื่องจากภาคแรก และแฟน ๆ พึงพอใจในเนื้อเรื่องและงานภาพ
ใน Mahoutsukai no Yome Season 2 เรื่องราวเน้นไปที่ Chise Hatori ที่ได้เริ่มเข้าเรียนใน Sorcerer’s College เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตและเวทมนตร์ในฐานะ Sleigh Beggy ซึ่งเป็นพลังพิเศษที่เธอมี ตลอดภาคนี้ ที่ผู้ชมจะได้เห็นเธอเติบโตทั้งด้านอารมณ์และความสามารถ พร้อมเข้าใจโลกแห่งเวทมนตร์ในอีกมิติหนึ่งที่ลึกซึ้งมากขึ้น
เนื้อเรื่องในภาคสองไม่ได้เน้นที่ Elias มากเท่าภาคแรก เนื่องจาก Chise เริ่มมีบทบาทของเธอในเวทีหลักของเรื่อง อีกทั้งมีการสำรวจเรื่องของเวทมนตร์ในมุมมองของ sorcerers ด้านวิทยาศาสตร์เวท และระบบต่าง ๆ ภายในวิทยาลัยเวทมนตร์ รวมถึงเรื่องราวของตัวละครรองที่มีเส้นทางชีวิตซับซ้อนกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่อง
สำหรับไดนามิกของเนื้อเรื่อง ภาคสองมีการกระจายประเด็นเรื่องราวอย่างมีจังหวะ เริ่มจากการตั้งต้นในสถาบัน ต่อด้วยการพัฒนาสัมพันธภาพ และจบลงด้วยปมลึกลับที่ยังไม่ถูกคลี่คลาย เนื้อหาในช่วงกลางถึงครึ่งหลังของซีซันจะมีความตื่นเต้นเพิ่มขึ้น โดยผู้ชมจะได้พบกับการแนะนำตัวละครและเวทมนตร์ใหม่ ๆ ที่ท้าทายระเบียบและความเชื่อเดิม ๆ
โดยรวมแล้ว Season 2 รักษาบรรยากาศของโลกแฟนตาซี ลึกลับ และอบอุ่นไว้อย่างมั่นคง แม้จะมีโครงเรื่องที่แตกต่างจากภาคแรกไปบ้าง แต่ก็ยังถ่ายทอดธีมเรื่อง มิตรภาพ บาดแผลในอดีต การยอมรับตัวเอง และ ปาฏิหาริย์ของเวทมนตร์ ได้อย่างสดใหม่และมีชีวิตชีวา
Chise Hatori (ฮาโตริ จิเสะ)
Chise คือ ตัวเอกหญิงอายุประมาณ 16 ปี และเป็น Sleigh Beggy—a ผู้มีพลังพิเศษที่สามารถดึงพลังเวทจากสิ่งรอบตัวและจากตัวเธอเอง แต่พลังนี้กลับส่งผลทำให้ชีวิตเธอมีอายุสั้น เธอถูกซื้อโดย Elias เพื่อช่วยยืดเวลาชีวิตและพัฒนาเวทมนตร์ของเธอ ซึ่งใน Season 2 เธอเข้าศึกษาในสถาบัน Alchemist College เพื่อเรียนรู้เวทมนตร์และเติบโตทั้งด้านอารมณ์และความสามารถ โดยมีธีมหลักคือการเรียนรู้ความเป็นอิสระและยอมรับตัวเอง
Elias Ainsworth (เอลิอัส เอนส์เวิร์ธ)
Elias คือจอมเวทผู้มีรูปลักษณ์เหมือนปีศาจกระโหลก เขาเป็นทั้งครูและคู่หมั้นของ Chise สถานะของเขาเป็นที่ซับซ้อน—ผสมระหว่างมนุษย์กับ fae จนเข้าใจความรู้สึกมนุษย์ไม่ดีนัก แต่เรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิตร่วมกับ Chise ใน Season 2 Elias ยังคงมีพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ แม้จะไม่ได้เด่นเหมือนในภาคแรก ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้ Chise และตัวละครรองได้เติบโตมากขึ้น
Philomela Sargant (ฟิลอมเมลา เซอร์เบีย)
Philomela เป็นหนึ่งในตัวละครใหม่ที่ได้รับการโฟกัสเป็นพิเศษใน Part 2 ของ Season 2 เธอมีอดีตที่ซับซ้อนและบุคลิกเงียบขรึม ทำให้มีบทบาทสำคัญในเรื่องราวจิตวิทยาของภาคนี้ Chise มีบทบาทในการช่วยเปลี่ยนแปลงภายในตัว Philomela และพัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างกัน ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของซีซั่นนี้
Mahoutsukai no Yome Season 2 คืออนิเมะแฟนตาซีที่ถ่ายทอดเรื่องราวการเติบโตและการเยียวยาทางจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง โดยพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกเวทมนตร์ผ่านสายตาของตัวเอกหญิงอย่าง Chise Hatori ที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด อดีตที่ซับซ้อน และความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกับจอมเวทปริศนาอย่าง Elias เพื่อนร่วมชั้นในสถาบันเวทมนตร์ หรือแม้แต่เงามืดในใจของตัวเอง
ด้วยงานภาพที่งดงาม เพลงประกอบที่กินใจ และเนื้อหาที่ค่อย ๆ คลี่คลายปมอย่างชาญฉลาด Season 2 ได้ขยายขอบเขตของเรื่องราวจากภาคแรกให้กว้างขวางและเข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเติมเต็มรายละเอียดของโลกแฟนตาซีให้มีชีวิตมากกว่าเดิม