
Lord El Melloi II Sei no Jikenbo ซับ ไทย อนิเมะจากซีรีส์สุดดังทั่วโลกจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Fate Series ซึ่งอนิเมะเรื่องนี้เป็นหนึ่งในอนิเมะถูกสร้างขึ้นมาเพือต่อยอดเนื้อเรื่องในจักรวาลของซีรีส์ Fate นั่นเอง
ในครั้งนี้เรื่องราวได้เปลี่ยนโฟกัสจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ไปสู่แนวสืบสวนในโลกเวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยปริศนาและความลึกลับ ดำเนินเรื่องโดย “ลอร์ด เอลเมลลอยที่สอง” ซึ่งเป็นตัวละครที่แฟน ๆ Fate Zero หลายคนคุ้นเคยดี
จุดเริ่มต้นจากไลท์โนเวล
ไลท์โนเวลชุด Lord El‑Melloi II Sei no Jikenbo เขียนโดย Makoto Sanda เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2014
และออกเล่มสุดท้ายเล่มที่ 10 เมื่อ 17 พฤษภาคม 2019 โดยเป็นเรื่องราวเป็นสปินออฟจากจักรวาล Fate โดยมีตัวละครหลักคือ “ลอร์ด เอลเมลลอยที่สอง” ในการสืบสวนปริศนาในโลกเวทมนตร์
การประกาศสร้างอนิเมะและทีมงาน
การสร้างอนิเมะถูก ประกาศครั้งแรกในรายการพิเศษของ Fate Project เมื่อ 31 ธันวาคม 2018
โดยได้รับสตูดิโอผู้ผลิตของอนิเมะเรื่องนี้คือ TROYCA พร้อมทีมงานหลักประกอบด้วย
วันฉายครั้งแรก – วันฉายตอนสุดท้าย และจำนวนตอน
“ตอนที่ 0” ได้เปิดตัวในวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2018 ส่วนอนิเมะซีรีส์เต็ม เริ่มฉายครั้งแรกในวันที่ 6 กรกฎาคม 2019
และฉายจบตอนสุดท้ายเมื่อ 28 กันยายน 2019 โดยมีทั้งหมด 13 ตอน และมีตอนพิเศษเพิ่มเติมอีก
การตอบรับจากผู้ชมโดยรวม
ด้าน คุณภาพงานภาพ-ดนตรี ได้รับคำชมเชย แม้ TROYCA จะเป็นสตูดิโอเล็กแต่ก็สามารถนำเสนอได้ใกล้เคียงกับงานของ ufotable (Fate/Zero)
ซีรีส์ได้รับคำชมในระดับกลางถึงสูงจากแฟนๆ นอกจากแฟน Fate เดิม ยังขยายไปถึงผู้ชมที่ชอบแนวสืบสวน–แฟนตาซี
เกิดขึ้น 10 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Fate/Zero และ 2 เดือนก่อนหน้าเหตุการณ์ใน Fate/stay night
ติดตามชีวิตของ Waver Velvet ที่เติบโตขึ้นมาในบทบาทใหม่ในชื่อ Lord El‑Melloi II หลังจากกลายเป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน “Modern Magecraft” ณ คณะ Clock Tower ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งเวทมนตร์ในกรุงลอนดอน ที่นั่นเขาได้ร่วมมือกับผู้ช่วยลึกลับนามว่า Gray—หญิงสาวจากชนบทที่เต็มไปด้วยความลึกลับเกี่ยวกับเวทมนตร์—เพื่อไขคดีประหลาดที่เกิดขึ้นทั่วเมือง
แต่ละตอนนำเสนอคดีเวทมนตร์เฉพาะเรื่อง—บางคดีเกี่ยวกับตลาดมืดของ “Mystic Eyes” บางคดีเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ผิดกฎหมาย—ที่นำไปสู่การเปิดเผยเบื้องหลังและการแย่งชิงอำนาจภายในสมาคมจอมเวท การเปิดคดีสืบสวนผสมเวทมนตร์นั้นทำให้เรื่องราวมีความน่าติดตามในเชิงตรรกะและได้เห็นความแตกต่างของแต่ละกลุ่มฝ่ายที่มีอิทธิพลในโลกเวทมนตร์
ในขณะเดียวกัน ตัวละครอย่าง Reines El‑Melloi Archisorte ผู้เป็นน้องสาวบุญธรรมของ Kayneth และเหล่าศิษย์ของเขาก็ปรากฏตัวสร้างทั้งบทบาทสนับสนุนและความซับซ้อนทางด้านการเมืองเวทมนตร์ ด้วยสมดุลระหว่างคดี ลึกลับ และการเมืองเรื่องนี้จึงให้บรรยากาศเหมือน “นักสืบในโลกเวทมนตร์” ที่กำลังทะยานออกสำรวจความมืดและอำนาจที่หลบซ่อนในกรุงลอนดอนยุคใหม่
Lord El‑Melloi II (Waver Velvet)
อดีตนักเรียนและมาสเตอร์ในเหตุการณ์ Fate/Zero ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสิบสอง “ลอร์ด” แห่ง Clock Tower และเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Modern Magecraft เขาโดดเด่นด้วยความรู้ด้านเวทมนตร์หลากหลาย แม้พลัง Magecraft จะจัดเป็นระดับสอง แต่เขาใช้ความคิดวิเคราะห์เชิงตรรกะเหมาะสำหรับการไขคดีในโลกเวทมนตร์
Gray
ผู้ช่วยและศิษย์สาววัย 15 ปีของ Lord El‑Melloi II ทำหน้าที่เล่าเรื่องราว (narrator) ตลอดทั้งอนิเมะ เธอสวมฮู้ดคลุมหน้าและผู้ช่วย Gray นำพลังลึกลับ “Add” ซึ่งเป็น Mystic Code ในครอบครองมาถ่ายทอดผ่านคดีต่าง ๆ โดยมีเบื้องหลังเชื่อมโยงกับราชวงศ์อาเธอร์
Reines El‑Melloi Archisorte
เป็นน้องสาวบุญธรรมของ Kayneth El‑Melloi Archibald และรัชทายาทของตระกูล El‑Melloi เธอขอให้ Waver รับบทลอร์ดรักษาบัลลังก์ชั่วคราว จึงทำให้เขาได้ชื่อว่า Lord El‑Melloi II เธอมีบทบาททั้งในเชิงสนับสนุนและสร้างแรงกดดันทางการเมืองแก่เขาอย่างสมเหตุสมผล
Flat Escardos และ Svin Glascheit
สองศิษย์จากห้องเรียนของ El‑Melloi II ที่ขึ้นชื่อใน Clock Tower ว่าเป็นคู่หูนักสืบแห่งโลกเวทมนตร์ Flat ฉายแววอัจฉริยะด้าน Magecraft แต่ก็มักก่อเรื่องวุ่นวาย ขณะที่ Svin มีความคิดจัดและเล่นเวท Beast Magecraft ทำให้ Flat เรียกเขาว่า “The Dog” ทั้งสองเติมชีวิตชีวาและความหลากหลายทางบุคลิกให้กับเรื่องราว
อนิเมะ Lord El-Melloi II Sei no Jikenbo ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานในจักรวาล Fate ที่แตกแขนงออกมาสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ด้วยการผสมผสานระหว่างแนวสืบสวนกับโลกเวทมนตร์ที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอิทธิพลทางการเมือง ตัวละครเอกอย่าง Lord El-Melloi II และ Gray ต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้ชมติดตามการไขคดีในแต่ละตอนได้อย่างน่าตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราว
งานภาพที่ประณีต ดนตรีประกอบจากนักแต่งเพลงชื่อดัง และการเขียนบทที่ฉลาด ทำให้ซีรีส์นี้ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากแฟนเดิมของ Fate และผู้ชมใหม่ที่ชื่นชอบแนวสืบสวนแฟนตาซี