
อนิเมะ “Goblin Slayer II (ภาค2)” คือหนึ่งในภาคต่อที่ได้รับการรอคอยอย่างมากจากแฟนอนิเมะทั่วโลก หลังจากภาคแรกได้เปิดตัว ใน เว็บดูอนิเมะ ไปด้วยความดิบ เถื่อน และเรื่องราวที่ไม่ประนีประนอมกับความโหดร้ายของโลกแฟนตาซี การกลับมาในซีซั่นที่ 2 นี้ ไม่เพียงขยายจักรวาลของ Goblin Slayer ให้ลึกซึ้งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเจาะลึกถึงจิตใจของตัวละครเอก และการเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เหนือยิ่งกว่าก็อบลินธรรมดา
การประกาศสร้าง Season 2 และสตูดิโอผู้ผลิต
Goblin Slayer Season 2 ได้รับการประกาศในงาน GA FES 2021 ซึ่งจัดในเดือนมกราคม 2021 สร้างโดยสตูดิโอ Liden Films สำหรับ Season 2
ผู้กำกับหลักได้แก่ Misato Takada โดยมี Takaharu Ozaki รับบทเป็น Chief Director
วันที่ฉายครั้งแรก – ตอนจบ และจำนวนตอน
ซีซั่น 2 เริ่มฉายตอนแรกในวันที่ 6 ตุลาคม 2023 และจบในวันที่ 22 ธันวาคม 2023 ทั้งหมด 12 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมโดยรวม
โดยรวมแล้ว Season 2 ได้รับเสียงชื่นชมในด้านการอัพเกรดคุณภาพงานภาพและการพัฒนาตัวละครจากภาคแรก
ควบคู่ไปกับการดำเนินเรื่องและการออกแบบตัวละครที่ลึกซึ้งมากขึ้น ส่งผลให้แฟน ๆ และนักวิจารณ์ให้การตอบรับในเชิงบวก ทั้งในแง่โครงเรื่องและเวทีภาพยนตร์ที่เผ็ดร้อนขึ้น
หลังจากเหตุการณ์ในช่วงสุดท้ายของภาพยนตร์ Goblin Slayer: Goblin’s Crown กลุ่มนักผจญภัยประกอบด้วย Goblin Slayer, Priestess, High Elf Archer, Dwarf Shaman และ Lizard Priest ได้กลับมารวมตัวอีกครั้งเพื่อเผชิญกับวิกฤตการรุกรานของก็อบลินที่ทวีความรุนแรงขึ้น
เรื่องราวเปิดด้วยการฝึกฝนของรุ่นน้องในค่ายผจญภัย ซึ่งทำให้ตัวละครหลักได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น พร้อมกันนั้นก็มีการเผยให้เห็นด้านมุมส่วนตัวของ Goblin Slayer อย่างมีนัยยะ เพื่อสะท้อนว่าภายนอกที่แข็งกร้าวนั้นก็ยังมีความรู้สึกและความผูกพัน
ในช่วงต่อมา ภารกิจใหญ่หลายครั้งถูกมอบหมายให้กลุ่มต้องสำรวจพื้นที่อันตราย: เริ่มจากอุโมงค์ใต้ดิน ไปจนถึงป่าลึกและแม่น้ำอันลึกลับ พวกเขาเผชิญหน้ากับก็อบลินที่มีผู้นำชักใยอย่างชาญฉลาด โดยรวมถึงการค้นพบแผนร้ายที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณและภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าที่เคยเจอ
ตัวซีซั่นเปิดโอกาสให้เห็นพัฒนาการทั้งในด้านการต่อสู้ การใช้เวทมนตร์ และทรัพยากรกลยุทธ์ของแต่ละตัวละคร Priestess ได้รับบทบาทมากขึ้น ทั้งในเชิงจิตใจและหน้าที่ผู้นำ ขณะที่ High Elf Archer กับ Dwarf Shaman ก็มีฉากที่แสดงถึงมิตรภาพและอารมณ์ภายในของพวกเขาเอง
ซีซั่นนี้ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ที่การปราบก็อบลิน แต่ยังเจาะลึกถึงปมภายในและมิติชีวิตของตัวละครหลัก โดยมีทั้งช่วงเวลาของความสงบ ความหวาดกลัว และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ชวนให้ผู้ชมได้ติดตามลุ้นไปพร้อมกัน
Goblin Slayer (นักล่าก็อบลิน)
Goblin Slayer เป็นตัวละครหลักของเรื่อง เขาเป็นนักผจญภัยอันดับซีลเวอร์ที่มุ่งมั่นเฉพาะการล่าและทำลายก็อบลินเท่านั้น เขาไม่สนใจชื่อเสียงเงินตรา แต่ทุ่มเทชีวิตในการกำจัดภัยคุกคามนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่เกิดจากโศกนาฏกรรมในวัยเด็ก บุคลิกของเขาเน้นเยือกเย็น สติปัญญา และเน้นกลยุทธ์ในทุกภารกิจ แม้จะดูแข็งกร้าว แต่เขาใส่ใจเพื่อนร่วมกลุ่มและพร้อมช่วยเหลือประชาชน
Priestess (นักบวชสาว)
Priestess เริ่มต้นเป็นนักผจญภัยระดับพอร์ซเลน อายุฉีกเป็นน้องใหม่แห่งกิลด์ เธอมีจิตใจอ่อนโยนและมุ่งมั่น แม้เพิ่งสูญเสียกับขุนก่อนจะถูกรุกรานโดยก็อบลิน แต่เธอได้รับการช่วยเหลือจาก Goblin
Slayer และเริ่มผจญภัยข้างเขา เธอใช้เวทมนตร์เพื่อรักษาและปกป้องทีม รวมถึงเติบโตทั้งในด้านพลังและจิตใจตลอดซีซั่น 2
High Elf Archer (เอลฟ์นักธนู)
High Elf Archer เป็นนักธนูระดับซีลเวอร์จากเผ่าเอลฟ์ วัยหลายร้อยปีแต่ยังคงรูปลักษณ์เหมือนวัยรุ่น เธอแม่นยำและคล่องตัว มีความขี้เล่นแต่ก็ทะเยอทะยานในภารกิจร่วมกับทีม เธอเข้าร่วมกลุ่ม Goblin Slayer หลังจากความวุ่นวายเกี่ยวกับก็อบลิน และกลายเป็นกำลังสำคัญในฉากแอคชันและเวทมนตร์ทางไกล
Dwarf Shaman (ดวอร์ฟผู้ใช้เวท)
Dwarf Shaman เป็นนักผจญภัยระดับซีลเวอร์จากเผ่าดวอร์ฟ อายุราว 100 ปี เที่ยวโลกและลองชิมอาหารใหม่เพื่อความสุข แต่เมื่อเผชิญฝูงก็อบลิน เขายืนหยัดใช้เวทย์โจมตีและสารพัดคาถา เขามีบุคลิกแจ่มใส ติดตลก และถูกใจแอบเกรียนกับ High Elf Archer เป็นบ่อยครั้ง แต่เป็นเพื่อนร่วมทีมที่น่าเชื่อถือ
Lizard Priest (นักบวชกิ้งก่า)
Lizard Priest เป็นตัวแทนของเผ่ากิ้งก่าสูงศักดิ์อีกคนหนึ่งในกลุ่ม เขานำความสงบและปัญญามาสู่ทีม มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์รักษาและเวทมนต์นิรธรรมชาติ เขาสนิทกับสมาชิกทุกคนและมักทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในกลุ่ม โดยเฉพาะระหว่าง High Elf กับ Dwarf
Goblin Slayer Season 2 คือการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีของหนึ่งในอนิเมะแนวดาร์กแฟนตาซีที่แฟน ๆ รอคอยมากที่สุด ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นยิ่งขึ้น การพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้งกว่าเดิม และการดำเนินเรื่องที่สมดุลระหว่างฉากแอคชันดุเดือดกับความลุ่มลึกทางอารมณ์ ซีซั่นนี้สามารถถ่ายทอดทั้งความโหดร้ายของโลกแฟนตาซีและมุมมองของมนุษย์ที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียได้อย่างยอดเยี่ยม
ไม่เพียงแต่ขยายจักรวาลของ Goblin Slayer เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าตัวละครเอกไม่ได้เป็นเพียงนักฆ่าก็อบลินไร้หัวใจ แต่เป็นผู้ที่มีอดีต ความเจ็บปวด และการเติบโตอย่างชัดเจนในทุกตอน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอนิเมะสายจริงจังที่ไม่อ้อมค้อมกับความเป็นจริงของโลก Goblin Slayer Season 2 คือผลงานที่ไม่ควรพลาด