
Blue Lock ภาค 2 กลับมาพร้อมกับความเข้มข้นที่มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ Season แรกได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมในหมู่แฟนอนิเมะทั่วโลก ด้วยพล็อตที่แปลกใหม่ การแข่งขันสุดเดือด และจิตวิทยาการเอาตัวรอดในสนามฟุตบอล ซีซั่นที่สองนี้จะพาเราดำดิ่งสู่การคัดเลือกที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม พร้อมแนะนำตัวละครใหม่ สกิลใหม่ และเส้นทางของตัวเอก อิโซางิ โยอิจิ ที่จะต้องเผชิญกับบททดสอบสุดหินในการเป็น “ศูนย์หน้าที่เก่งที่สุดในโลก”
ที่มาของอนิเมะ Blue Lock
ต้นฉบับมังงะ เริ่มลงใน Weekly Shōnen Magazine ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2018 โดยเขียนโดย Muneyuki Kaneshiro และวาดภาพโดย Yusuke Nomura
ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สู่การเป็นหนึ่งในมังงะขายดีระดับโลก (ม.ค. 2025 มีฉบับพิมพ์มากกว่า 45 ล้านเล่ม) และได้รับรางวัล Kodansha Manga Award ครั้งที่ 45 สาขาชาวโชเนน ประจำปี 2021
การประกาศสร้างอนิเมะ
การดัดแปลงเป็นอนิเมะถูก ประกาศครั้งแรกวันที่ 12 สิงหาคม 2021
สตูดิโอ Eight Bit รับหน้าที่โปรดักชั่น ร่วมกับทีมหลัก เช่น ผู้กำกับ Tetsuaki Watanabe, ผู้ควบคุมบท Taku Kishimoto, และนักแต่งเพลง Jun Murayama
รายละเอียดสตูดิโอผู้ผลิต
โปรดิวซ์โดย: สตูดิโอ Eight Bit
ทีมงาน Season 2:
วันฉายครั้งแรก – ตอนสุดท้าย – จำนวนตอน
ฉายครั้งแรกวันที่ (Season 2): 5 ตุลาคม 2024 บนช่อง TV Asahi ในช่วง IMAnimation พร้อมฉายจบวันที่: 28 ธันวาคม 2024 (สองตอนสุดท้ายออกเป็นคู่) โดยฉายจำนวนตอนทั้งหมด: 14 ตอน
ความเห็นจากแฟนๆ และนักวิจารณ์
ใน Reddit: แม้แฟน ๆ จะชมว่าซีซั่น 2 มีปมเรื่องลำดับภาพ (timing) และ animation ที่ไม่สมูธเหมือนภาคแรก แต่ยังยกย่องคุณภาพของงานภาพต้นฉบับ
นักวิจารณ์ + preview: แจ้งว่า Season 2 ยังยืนหยัดด้วยพล็อตที่เข้มข้น และคุณภาพเนื้อเรื่องโดยรวมที่เต็มอิ่มสำหรับสายอนิเมะวัยรุ่น/กีฬา
Blue Lock Season 2 เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก เมื่อผู้เล่นที่รอดจากการคัดเลือกเข้าสู่ “Third Selection” และได้รับโอกาสสัมผัสสู่สนามแข่งระดับสูงอย่างแมตช์ระหว่าง ทีม Blue Lock XI กับ ทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุไม่เกิน
นี่คือการเผชิญหน้าครั้งสำคัญที่ทุกผู้เล่นต้องพิสูจน์ว่าตนคือ “ศูนย์หน้าที่ดีที่สุด” ที่โปรแกรม Blue Lock ต้องการ
เนื้อเรื่องจะเน้นไปที่กระบวนการคัดเลือกตำแหน่ง “ตัวจริง 11 คน” ภายใต้ความกดดันสุดขั้ว จากนั้นการแข่งขันกับทีม U‑20 ญี่ปุ่นก็เริ่มต้นขึ้นเต็มรูปแบบ จุดเด่นอยู่ที่การพัฒนาทักษะของตัวละครหลัก อิโซางิ โยอิจิ และเพื่อนร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น บาจิระ, ชิงิริ, นางิ, อิโตชิ เรียว, และอีกมากมาย โดยในซีซั่นนี้ทุกคนจะถูกทดสอบทั้งในด้านแทคติก ความคิด การอ่านเกม รวมถึงจิตวิทยาการแข่งขันที่จะนำไปสู่การตัดสินใจที่เปลี่ยนเกม
โยอิจิ อิซากิ (Yoichi Isagi)
อิซากิคือจุดศูนย์กลางของซีซั่นนี้ หลังผ่านการคัดเลือกจนได้เข้าร่วมทีม Blue Lock XI เขาได้รับบทบาทสำคัญขึ้นในฐานะ “ตัวเชื่อมเกม” ของทีม โดยใช้สมอง วิเคราะห์จังหวะ สร้างโอกาส และมักเป็นผู้นำในการเดินเกม
นอกจากนี้เขายังได้รับการถ่ายทอดว่าเป็นคนมีจิตใจนิ่ง มีความเป็นผู้นำ และค่อนไปทางพี่ที่เป็นที่พึ่งให้กับรุ่นน้องในทีม
อิโตชิ ริน (Rin Itoshi)
หนึ่งในผู้เล่นที่มีฝีเท้าระดับหัวแถวจากโปรเจกต์ Blue Lock รินมาในฐานะศูนย์หน้าที่มีทั้งเทคนิคเฉียบและความเป็นผู้นำแบบเยือกเย็น เขายังถูกบรรยายว่ามีสไตล์การเล่นแบบ “Destroyer form” เป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาโดดเด่นในสนามแข่งขันกับทีม U‑20
เซชิโระ นางิ (Seishiro Nagi)
นางิเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นจากทีม V และซีซั่นนี้ยังคงใช้ความสามารถด้านการทำประตูระยะไกลและทักษะการควบคุมบอลที่เหนือชั้น โดยเขาจะปรากฏตัวในช่วงแมตช์แม้จะยังไม่รับบทบาทนำ พร้อมช่วยยกระดับแนวรุกของทีมได้อย่างชัดเจน
ฮโยมะ ชิกิริ (Hyoma Chigiri)
ชิกิริคือกองหน้าความเร็วสูงที่ประสบความสำเร็จในการใช้สปีดเป็นตัวทำลายเกม ร่างกายเขาเคยได้รับบาดเจ็บ แต่ซีซั่นนี้กลับมาแข็งแกร่ง พร้อมเคลื่อนที่ฝ่าแนวรับคู่แข่งด้วยสปีดที่แตกต่าง
เมกุรุ บาชิระ (Meguru Bachira)
บาชิระคือคนที่มีสไตล์ดริบเบิ้ลเฉพาะตัว กระตุ้นเกมรุกด้วยความคิดสร้างสรรค์และสไตล์ที่ว่องไว เขายังคงมีบทบาทในซีซั่นนี้ เพียงแต่บทบาทไม่โดดเด่นเท่าภาคก่อน แต่ยังคงเสริมจังหวะเกมและเป็นตัวสร้างจังหวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชูอุโงะ กากามารุ (Gin Gagamaru)
ในฐานะผู้รักษาประตูหัวใจแข็งแห่งทีม Blue Lock XI กากามารุทำหน้าที่เป็นปราการสำคัญที่คอยป้องกันไม่ให้ประตูรั่ว เขาอาจไม่ใช่ตัวละครเด่นแบบกองหน้าที่ทำคะแนน แต่ก็ยังมีบทบาทที่จำเป็นในการป้องกันแนวรับ
ทาบิโตะ คาราสุ (Tabito Karasu)
ทำหน้าที่เป็นแบ็กไลน์และผู้สร้างจังหวะเกม เขาเป็นทั้งผู้เล่นรับ และตัวเชื่อมเกมรุก ด้วยทักษะการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาเป็นแกนกลางในสนามที่สร้างสมดุลได้อย่างแน่นแฟ้น
เรโอะ มิกาเงะ (Reo Mikage)
ตัวสำรองสุดอัจฉริยะผู้สามารถ “เลียนแบบ” เทคนิคของผู้อื่นได้ทันทีหลังเห็นหนึ่งครั้ง ซีซั่นนี้เขามีบทบาทในการเปลี่ยนเกม เรียนรู้แนวรุก-รับ และถูกส่งลงสนามเพื่อพลิกยอดคุ้มด้วยความสามารถที่แตกต่าง
โชเออิ บารุ (Shoei Baro)
บุคลิกสุดเอโก้และเล่นเกมไม่เหมือนใคร บารุเน้นสร้างปัญหาให้แนวรับฝ่ายตรงข้ามด้วยสไตล์ปั่นป่วนและไม่คาดเดา ซีซั่นนี้แม้จะถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้มีส่วนช่วยทีมมาก แต่ก็ยังคงเป็นตัวรุกที่สร้างสีสันและคาดเดาไม่ได้
Blue Lock Season 2 ยังคงถ่ายทอดความเข้มข้นของ “สมรภูมิศูนย์หน้า” ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยกระดับจากการแข่งขันภายในสู่แมตช์ใหญ่ระดับประเทศที่เดิมพันด้วยอนาคตของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น การเผชิญหน้าระหว่างทีม Blue Lock XI และทีมชาติ U‑20 กลายเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงของตัวละครทุกคน ทั้งในแง่ทักษะ กลยุทธ์ และพลังใจ ทำให้ซีซั่นนี้มีความดุเดือด เข้มข้น และเต็มไปด้วยพลังแห่งความฝันและความมุ่งมั่น
แม้จะมีผู้เล่นจำนวนมาก แต่ตัวละครหลักแต่ละคนได้รับการพัฒนาและสะท้อนตัวตนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเติบโตของอิซากิ โยอิจิ ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม ในขณะที่ริน นางิ และชิกิริ ต่างแสดงศักยภาพเฉพาะตัวที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม