
Enen no Shouboutai หรือชื่อภาษาไทย หน่วยผจญคนไฟลุก ภาค 1 เป็นผลงานมังงะจากปลายปากกาของ Atsushi Ōkubo ผู้สร้างชื่อมาจากผลงานเรื่อง Soul Eater โดยเริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Weekly Shōnen Magazine ของสำนักพิมพ์ Kodansha ตั้งแต่ปี 2015 และได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ
อนิเมะ Fire Force Season 1 หรือ En’en no Shōbōtai ซีซั่น 1 ดัดแปลงจากมังงะของ Atsushi Ōkubo (ผู้เขียน Soul Eater) ซึ่งเริ่มต้นตีพิมพ์ใน Weekly Shōnen Magazine ตั้งแต่ปี 2015 หลังจากได้รับเสียงตอบรับที่ดี ก็มีกระแสเรียกร้องให้สร้างเป็นอนิเมะ จนใน 14 พฤศจิกายน 2018 มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าอนิเมะกำลังจะถูกสร้างโดย สตูดิโอ David Production
การประกาศสร้างอนิเมะและสตูดิโอผู้สร้าง
มีการเปิดเผยครั้งแรกผ่านทาง Twitter และนิตยสาร Weekly Shōnen Magazine ในเดือนพฤศจิกายน 2018 และ David Production เป็นผู้ผลิตเต็มรูปแบบ โดยมี Yuki Yase เป็นผู้กำกับหลัก, Yamato Haishima ดูแลบท, Hideyuki Morioka ออกแบบคาแรกเตอร์, และ Kenichiro Suehiro ประพันธ์ดนตรีประกอบ
วันที่ฉายตอนแรก–ตอนสุดท้าย และจำนวนตอน
เริ่มฉาย 6 ก.ค. 2019 จนไปถึงวันที่สิ้นสุดการฉาย 28 ธ.ค. 2019 โดยมีจำนวนตอนที่ออกฉายทั้งหมด 24 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมโดยรวม
แม้คะแนนเฉพาะซีซั่นบน MyAnimeList จะอยู่ที่ราว 7.7/10 แต่ภาพรวมจากทั้งสองซีซั่นคือ 7.7–7.8/10
อนิเมะได้รับคำชมด้าน คุณภาพแอนิเมชัน ระบบไฟและแอ็กชันที่เร้าใจ รวมถึง ดนตรีประกอบ ที่เพิ่มความตื่นเต้นให้กับฉากต่อสู้
ในจักรวาลของ Fire Force เมืองโตเกียวในปีที่ 198 ของ “ยุคสุริยะ” ยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางชีวิตของมนุษยชาติ หลังจากเหตุการณ์ “Great Cataclysm” ที่ลุกลามไปทั่วโลกเมื่อกว่า 250 ปีก่อน ในปัจจุบัน มนุษย์ต้องเผชิญกับภัยใหม่ที่เรียกว่า Spontaneous Human Combustion การลุกไหม้ภายในที่เปลี่ยนคนเป็นสิ่งมีชีวิตลุกลามอันเรียกว่า Infernal ซึ่งคุกคามความปลอดภัยของผู้คนในเมืองอย่างต่อเนื่อง
เพื่อต่อกรกับปัญหานี้ รัฐบาลร่วมกับองค์กรทางศาสนาและกองกำลังต่างๆ จัดตั้ง หน่วยดับเพลิงพิเศษ (Fire Force) ขึ้นทั้งหมด 8 หน่วย หน่วยที่ 8 เป็นกลุ่มผู้มีพลัง Pyrokinetic ที่ไม่เพียงแต่ล้างพิษ Infernal แต่ยังสืบสวนเงื่อนงำในหน่วยอื่นๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของภัย
ชินระ คุซาคาเบะ เป็นสมาชิก “เจนเนอเรชันที่ 3” (3rd Generation) ผู้สามารถสร้างเปลวไฟจากฝ่าเท้าของตนเอง ทำให้เขาได้ฉายาว่า “Devil’s Footprints” เขาตัดสินใจเข้าร่วมหน่วยที่ 8 ด้วยภารกิจลับ เพื่อหาความจริงว่าการลุกไหม้บางเหตุการณ์ที่ฆ่าครอบครัวของเขาในอดีต
ชินระ คุซาคาเบะ (Shinra Kusakabe)
ชินระเป็นตัวเอกของเรื่อง เป็นผู้มีพลัง รุ่นที่ 3 (3rd Generation Pyrokinetic) ซึ่งสามารถสร้างเปลวไฟจากฝ่าเท้าของเขาได้ รู้จักกันในฉายา “Devil’s Footprints” จากรอยยิ้มประหลาดเวลาตื่นเต้นหรือเครียด เขาเข้าร่วมหน่วยดับเพลิงที่ 8 ด้วยจุดมุ่งหมายเฉพาะตัว เพื่อไขปริศนาการเสียชีวิตของครอบครัวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว และเปลี่ยนศักยภาพแห่งการลุกไหม้นั้นให้กลายเป็นเครื่องมือของความยุติธรรม
อาเธอร์ บอยล์ (Arthur Boyle)
อาเธอร์เป็นนักดับเพลิงพลังรุ่นที่ 3 ผู้ถือว่าเป็น “อัศวิน” ผู้ใช้ดาบไฟพลาสม่า Excalibur และมักอ้างว่าตนเองเป็นราชา มีบุคลิกจิตหลุดโลกนิด ๆ แต่เมื่ออยู่ในสมรภูมิจริง เขาคือผู้รบที่ทรงพลังและไร้ความกลัว เขาและชินระมีความสัมพันธ์แบบ “คู่กัด” แต่ก็พึ่งพิงกันได้ในเวลาจำเป็น
มากิ โอเซะ (Maki Oze)
มากิเป็นผู้หญิงรุ่นที่ 2 (Second Generation) ผู้คุมเปลวไฟภายนอกอย่างเชี่ยวชาญทั้งการสร้างและควบคุมไฟรวมถึงออกไปไกลในระยะ เธอมีรูปร่างสูงและหุ่นคล่องแคล่ว มีอดีตเป็นทหารมาก่อนจนมาร่วมหน่วยที่ 8 ด้วยความมุ่งมั่นและจิตใจจริงจัง แม้จะดูใจเย็น แต่บางครั้งก็มักถูกหัวเรื่องตลกหรือมุขตลกในทีมเลือกเป็นเป้าหมาย
ทาเคฮิสะ ฮินาวะ (Takehisa Hinawa)
ฮินาวะเป็นชายหนุ่มรุ่นที่ 2 ผู้ใช้ “กระสุนเพลิง” (control flames via firearms) มีนิสัยจริงจัง สุขุม และมองโลกในแง่ของกฎเกณฑ์ เขาเป็นอดีตทหารที่มุ่งหวังใช้อำนาจไฟเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แม้ไม่ได้แสดงอารมณ์มากนัก แต่กลับมีบทบาทเป็นเสาหลักให้กับหน่วย 8
ไอริส (Iris)
ไอริสเป็นซิสเตอร์จากโบสถ์ Holy Sol Temple และเป็นผู้ที่ไม่มีพลังไฟ (non-pyrokinetic) เธอทำหน้าที่ “สวดมนต์ให้วิญญาณ” ของ Infernal ก่อนหน่วย 8 ได้รับอนุญาตให้นำผู้เคราะห์ร้ายไปสู่ความสงบ เธอแสดงถึงความเชื่อและศรัทธาที่แข็งแรง ซึ่งมีบทบาทในการสร้างสมดุลให้เรื่องราวไม่หนักไปทางแอ็กชันอย่างเดียว
Enen no Shouboutai Season 1 คืออนิเมะที่ผสมผสานระหว่างแอ็กชันสุดมันส์ ดราม่าที่กินใจ และโลกแฟนตาซีที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยธีม “ไฟ” ที่ไม่ได้เป็นเพียงพลังพิเศษ แต่ยังสะท้อนความเชื่อ ความศรัทธา และคำถามต่อมนุษย์ในโลกหลังภัยพิบัติ ตัวละครหลักอย่างชินระและสมาชิกหน่วยที่ 8 ต่างมีเป้าหมายและอดีตของตนที่ค่อย ๆ เปิดเผย ทำให้ผู้ชมติดตามด้วยความสนุกและอยากรู้ความลับเบื้องหลังมากขึ้นในทุกตอน
คุณภาพของแอนิเมชันจากสตูดิโอ David Production ก็เสริมให้ Fire Force แตกต่างจากอนิเมะแนวต่อสู้อื่น ๆ โดยเฉพาะฉากแอ็กชันที่ดุดัน ลื่นไหล และการใช้แสงไฟที่ชวนตะลึง ไม่เพียงแค่สร้างความบันเทิง แต่ยังชวนให้ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เราเชื่อว่า “ถูก” หรือ “ผิด” อย่างลึกซึ้ง