
Tate no Yuusha no Nariagari Season 2 หรือชื่อภาษาไทยว่า “ผู้กล้าโล่ผงาด ภาค 2” ซับไทย เป็นภาคต่อของอนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากภาคแรก ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น บทพัฒนาของตัวละครที่แข็งแรง และความแตกต่างจากแนวผู้กล้าแบบดั้งเดิม ภาคนี้ได้พาผู้ชมกลับเข้าสู่โลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยศัตรู ความลับ และความท้าทายใหม่ๆ ที่รอผู้กล้าโล่ นาโอฟุมิ และเพื่อนร่วมทางของเขา
หลังจากประสบความสำเร็จในภาคแรกที่ฉายในปี 2019 นั่นทำให้ทางสตูดิโอผู้ผลิตจึงได้ประกาศสร้างภาค 2 และ 3 พร้อมกันในปี 2020
ก่อนที่จะมาเป็นภาคต่อ: ประกาศสร้างภาค 2 และสตูดิโอผู้ผลิต
ถึงแม้ภาคแรกจะฉายในปี 2019 แต่ในงาน Crunchyroll Expo 2019 ทางผู้จัดได้ออกมาประกาศสร้าง Season 2 และ Season 3 ไปพร้อมกัน
ภาคนี้ยังคงผลิตโดย Kinema Citrus โดยได้ร่วมกับสตูดิโอ DR Movie ซึ่งเป็นทีมเดิมจากภาคแรกและภาคต่อ เน้นทั้งคุณภาพงานภาพและความสม่ำเสมอในการสื่ออารมณ์ของตัวละคร
วันที่ฉายและจำนวนตอน
วันที่ฉายครั้งแรก: 6 เมษายน 2022
วันที่ฉายตอนสุดท้าย: 29 มิถุนายน 2022 โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 13 ตอน
การตอบรับจากผู้ชม
คะแนนเฉลี่ยบน AniDB: 6.16/10 จากผู้ชมกว่า 1,557 คน ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ
เสียงวิจารณ์จากชุมชน Reddit: มีหลายความเห็นที่ชี้ให้เห็นจุดอ่อนเรื่องการดำเนินเรื่องและคุณภาพแอนิเมชัน
ในภาคนี้ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนาโอฟุมิ แก้แค้นจากข้อกล่าวหาที่เป็นการใส่ร้ายในภาคแรก กลายเป็นฮีโร่ที่ได้รับการยอมรับและหันมาปกป้องโลกจาก “คลื่นหายนะ” แต่ความสงบเพียงชั่วคราว เพราะอันตรายใหม่กำลังคุกคามโลกใบนี้
สิ่งที่ตามมาคือ “Spirit Tortoise” สิ่งมีชีวิตยักษ์ที่มาพร้อมความสามารถพิเศษดึงดูดพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตรอบตัว ทำให้ฐานของคลื่นหยุดชะงัก แต่ก็แลกมาด้วยการพลิกผันครั้งใหญ่ของผู้คนทั่วโลก
เพื่อหยุดภัยพิบัตินี้ นาโอฟุมิออกเดินทางครั้งใหม่พร้อมกับพันธมิตรเก่าและใหม่ เช่น ราฟทาเลีย, ฟิโล และริชเทีย พวกเขาจึงต้องเผชิญกับแผนการลึกลับของบุคคลจากโลกอื่น ซึ่งกลายเป็นศัตรูสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง “Spirit Tortoise”
ภาคนี้มีจุดเด่นที่การขยายโลกแฟนตาซีให้กว้างขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องของคลื่น แต่พาเข้าไปยัง “โลกคู่ขนาน” ที่มีเหล่าผู้กล้าชุดใหม่ อีกทั้งยังเน้นการพัฒนาของตัวละครรอง เช่น ราฟทาเลียและริชเทีย ที่ได้รับบทบาทโดดเด่นขึ้น การเดินเรื่องจึงเป็นการผสมผสานระหว่างแอ็กชัน การผจญภัย และความลึกเชิงอารมณ์อย่างสมดุล
ทั้งนี้ ทีมงานผู้ผลิตเลือกดำเนินเรื่องในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น โดยคะเนใจให้จบภาคในเวลา 13 ตอน แต่ก็ยังรักษาองค์ประกอบหลักของซีรีส์ไว้ครบถ้วน เหมาะสำหรับคนที่ชอบเนื้อเรื่องกระชับ แต่ไม่อยากพลาดโลกและตัวละครที่เติบโตต่อเนื่องจากภาคแรก
นาโอฟุมิ อิวาทานิ (Naofumi Iwatani) — ผู้กล้าโล่และวีรบุรุษเอกของเรื่อง จากเด็กหนุ่มที่ถูกอัญเชิญมาจากโลกอื่นจนกลายเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งจนนำมาซึ่งการเติบโตทั้งทางจิตใจและพลังใน Season 2 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องโลกจากภัยใหม่ เขาถูกวางบทบาทให้เป็นผู้นำในการรับมือกับ “Spirit Tortoise” และแสดงให้เห็นถึงพลังโล่ที่หลากหลาย ทั้งด้านป้องกัน เสริมพลัง และความสามารถ Counter-attack จากปราณโกรธของเขา
ราฟทาเลีย (Raphtalia) — ทาสกึ่งเผ่าที่กลายมาเป็นนักดาบคู่ใจของนาโอฟุมิ เธอเติบโตจากความหวาดกลัวเป็นนักรบที่กล้าหาญ Season 2 เน้นบทบาทของเธอให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งในฐานะเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจเขาและเป็นตัวแทนของความศรัทธาและความภักดีที่สะท้อนถึงเส้นทางชีวิตของนาโอฟุมิ
ฟิโล (Filo) — ราชินีนกฟิโลเรียลผู้เปี่ยมไปด้วยพลังและความน่ารัก เธอสามารถแปลงร่างเป็นสาวน้อยปีกนกที่มีเวทลมย้อนกลับใน Season 2 ยิ่งเสริมบทบาทในฉากต่อสู้และความสัมพันธ์ภายในปาร์ตี้ของนาโอฟุมิ ทำให้เธอเป็นทั้งกำลังใจและกลไกสนับสนุนเชิงแอ็กชัน
ริชเทีย ไอวี่เรด (Rishia Ivyred) — ตัวละครใหม่ที่ได้รับความสนใจในภาคนี้ เธอเป็นผู้ถืออาวุธ Vassal (Projectile Hero) เดิมเป็นผู้ติดตามผู้กล้าอื่น แต่เข้าร่วมปาร์ตี้ของนาโอฟุมิใน Season 2 เมื่อได้รับแรงบันดาลใจจากการฝึกซ้อมและพัฒนาตนเอง ริชเทียได้โชว์พลัง Hengen Muso (ปราณต่อสู้) ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยเสริมกำลังสำคัญในหลายด่านของภาคนี้
Tate no Yuusha no Nariagari Season 2 เป็นภาคต่อที่พาเราดำดิ่งลึกเข้าสู่โลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์เรื่องจังหวะการเล่าเรื่องและคุณภาพบางจุด แต่จุดเด่นของภาคนี้คือการพัฒนาตัวละคร การขยายโลกทัศน์ และการเปิดเผยศัตรูใหม่ที่น่าสนใจ
ภาคนี้ยังคงรักษาหัวใจของเรื่องไว้ได้อย่างดี ทั้งในแง่ของมิตรภาพ การต่อสู้ และการยืนหยัดแม้ต้องเผชิญความอยุติธรรม สำหรับแฟนๆ ของซีรีส์นี้ ภาค 2 คืออีกหนึ่งบทสำคัญที่ไม่ควรพลาด และยังเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ภาค 3 ที่หลายคนตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ