Ore wa Subete wo Parry suru ฉันจะแพรี่ให้หมด ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกอยากจะเป็นนักผจญภัยให้ได้ ซับไทย

อนิเมะเรื่อง Ore wa Subete wo Parry suru หรือ ฉันจะแพรี่ให้หมด ซับไทย สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมตั้งแต่ประกาศสร้าง และกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าสนใจของปี 2024 ด้วยชื่อเรื่องยาวล้น แต่ตรงประเด็นว่า “ผมแพรี่ทุกอย่าง” แฝงมนต์เสน่ห์ความแฟนตาซีคอมเมดี้ ที่ผสมกับฉากบู๊สไตล์ RPG ได้อย่างลงตัว

ก่อนที่จะมาเป็นอนิเมะ “Ore wa Subete wo Parry suru”
เริ่มต้นจาก นิยายบนเว็บของ Nabeshiki ลงบนแพลตฟอร์ม Shōsetsuka ni Narō เมื่อ 17 ตุลาคม 2019 ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์เป็น ไลต์โนเวล โดย Earth Star Entertainment ตั้งแต่ 15 กันยายน 2020 พร้อมภาพประกอบโดย Kawaguchi

และมีการทำ มังงะ โดย KRSG ตีพิมพ์ใน Comic Earth Star ตั้งแต่ 30 กันยายน 2020

การประกาศสร้างอนิเมะ & รายละเอียดสตูดิโอ
มีการ ประกาศสร้างอนิเมะ ครั้งแรกใน พฤศจิกายน 2023 ซี่งดำเนินการผลิตโดย สตูดิโอ OLM (ที่มีผลงานเช่น Komi-san wa, Comyushou desu. และ Summertime Render)

การออกอากาศ – วันที่ฉายครั้งแรก, ตอนสุดท้าย และจำนวนตอน
เริ่มต้นออกอากาศใน วันที่ 4 กรกฎาคม 2024 และตอนสุดท้ายออกอากาศ วันที่ 20 กันยายน 2024 มีโดยรวมทั้งหมด 12 ตอน

การตอบรับจากผู้ชม

คะแนนจากฐานข้อมูลอนิเมะแนวทั่วไป

• บน AniDB ให้คะแนนโดยเฉลี่ย 6.23/10 จากผู้ใช้กว่า 730 คน
• บน AnimeSchedule.net ให้คะแนน 7.19/10 จากผู้ชม 146 คน

ความเห็นจาก Reddit (ผู้ชมอนิเมะ)
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชื่นชอบคอนเซ็ปต์ “พระเอกโง่ เยือกเย็น แต่มีพรสวรรค์ระดับเทพ” และรอชมทุกตอน

เนื้อเรื่องย่อ ซับไทย อนิเมะ “Ore wa Subete wo Parry suru” ฉันจะแพรี่ให้หมด

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ นอร์ (Noor) หนุ่มผู้ฝึกฝนสกิลพื้นฐานอย่างหนักหน่วงในป่าและภูเขามานานถึง 14 ปี โดยหวังเป็นนักผจญภัย แม้เขาจะได้รับสกิลเพียงระดับเริ่มต้น เช่น “[Parry]” ที่ใช้ปัดป้องเท่านั้น แต่กลับพัฒนามันจนมีพลังมหาศาลเหนือบรรดาครูฝึก นอร์เดินทางเข้าสู่ ราชธานีอาณาจักรคเลย์ส์ (Kingdom of Clays) เพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่กลับไม่รู้เลยว่าอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ หลังจากที่มีการลอบสังหารองค์หญิง ลินน์ (Lynne)

ในเที่ยวแรกของเขาที่เมืองหลวง นอร์ยังไม่รู้ถึงความยากของเส้นทางนี้ ถึงแม้จะช่วยชีวิตเจ้าหญิงจากอันตราย ได้รับดาบลึกลับ “Black Blade” จากกษัตริย์ แต่เขายังยึดติดกับความรู้สึกว่า “ยังไม่แข็งพอ” การผจญภัยที่เต็มไปด้วยความเข้าใจผิด ความขัดแย้งทางการสื่อสาร และความสนุกจากพลังป้องกันขั้นสุดยอดของเขา

แนะนำตัวละครหลักของอนิเมะ Ore wa Subete wo Parry suru

Noor
Noor เป็นตัวเอกของเรื่อง หนุ่มกำพร้าที่ฝึกฝนทักษะพื้นฐานต่างๆ มาเป็นเวลา 14 ปี แม้สกิลที่ได้จะดูธรรมดาอย่าง [Parry] แต่เพราะความมุ่งมั่นทำให้เขายกระดับความสามารถขึ้นจนเป็น ‘พลังเทพ’ โดยตัวเองยังไม่รู้ ภายนอกเขาดูสุภาพและขี้อาย ขาดสามัญสำนึกทางสังคมเพราะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบนภูเขา ส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิดและเหตุการณ์ป่วนๆ บ่อยครั้ง

Lynne (Princess Lynneburg Clays)
ลินน์ หรือ เจ้าหญิงลินน์ แห่งอาณาจักรคเลย์ส์ เธอเป็นเจ้าหญิงวัย 14 ปีที่มุ่งมั่นจะฝึกฝนเป็นนักผจญภัย หลังนอร์ช่วยชีวิตเธอจากมิโนทอร์ เธอนับถือนอร์เป็นต้นแบบและยอมเดินทางกับเขา แม้จะมีบุคลิกอ่อนโยน แต่เธอกลับเก่งกาจในทุกสกิลพื้นฐานและมีนิสัยขี้เข้าใจผิดคล้ายกับนอร์ จนระหว่างทั้งคู่มักเกิดเหตุการณ์ฮาอยู่เสมอ

Ines (Divine Shield)
อิเนส เป็นผู้ช่วยผู้พิทักษ์องค์หญิงและนักรบฝีมือดี เธอถูกเรียกว่า “Divine Shield” มีจุดเริ่มต้นเป็นคนจริงจังสไตล์ราชสำนัก แต่เมื่อเห็นนอร์ใช้พลังปาร์รีทรงพลังและเอาชนะปีศาจใหญ่อย่าง “Black Death Dragon” ได้ เธอจึงเลิกอิจฉาและยอมรับเขาในฐานะเพื่อนร่วมทีม ทั้งสองเริ่มสร้างความสัมพันธ์จากความเคารพร่วมกัน

Rolo
โรโล่ เด็กหนุ่มเผ่าพันธุ์ปีศาจ ผู้มีอดีตเป็นทาสของอาณาจักรเวทมนตร์ เขามีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์ประหลาด แต่เพราะประสบการณ์ตกเป็นเบี้ย เขาจึงปากหนักและขี้อาย โรโล่มักเข้าใจสถานการณ์จริงมากกว่าคนอื่น แต่ออกความเห็นไม่เก่ง พอได้ร่วมเดินทางกับนอร์ ลินน์ และอิเนส จึงมีบทบาททั้งด้านจิตใจและการต่อสู้

Gilbert
กิลเบิร์ต เป็นแม่ทัพแห่งอาณาจักรคเลย์ส์ ผู้สามารถสู้ในระดับมังกรได้ เขาเป็นคู่แข่งสายตรงของนอร์ หลังถูกนอร์เอาชนะแบบเผลอๆ ในการฝึกซ้อม ทำให้เขามองเห็น แรงจูงใจในการฝึกหนักของนอร์ และเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์เป็นเส้นทางแข่งขัน-เข้าใจร่วมกัน

Ore wa Subete wo Parry suru คืออนิเมะแฟนตาซีสายคอมเมดี้ที่โดดเด่นด้วยแนวคิดแปลกใหม่ “สกิลพื้นฐานธรรมดา แต่ฝึกหนักจนกลายเป็นเทพ” ซึ่งไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ แต่ยังมอบเสียงหัวเราะและความอบอุ่นใจให้กับผู้ชม ผ่านตัวละครอย่างนอร์และเพื่อนร่วมทางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรื่องนี้ไม่เน้นความอลังการของพลังเวทหรือสงครามขนาดใหญ่

แต่กลับใช้ความเรียบง่าย ความจริงใจ และความเข้าใจผิดที่น่ารัก เป็นแรงผลักดันในการเล่าเรื่อง ด้วยจำนวนตอนที่พอดี 12 ตอน ภาพสวย เพลงเพราะ และจังหวะฮาแบบลงล็อก อนิเมะเรื่องนี้จึงเหมาะกับทั้งผู้ชมสายสบายๆ และแฟนแฟนตาซีที่กำลังมองหาผลงานเบาสมองแต่เต็มไปด้วยความหมาย

• ซับไทย