
Overlord III หรือ โอเวอร์ ลอร์ด จอมมารพิชิตโลก ภาค3 อนิเมะภาคต่อของซีรีส์อนิเมะยอดนิยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกัน ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในภาคหนึ่งและภาคสองที่ผ่านมา จนได้รับการสานต่อเนื้อเรื่องให้กลายเป็นอนิเมะภาคสาม
โดยในภาคนี้เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาและการขยายอำนาจของตัวเอกอย่าง “ไอนซ์ อูล โ gown” ไปสู่ความเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในโลกแฟนตาซีอันโหดร้าย
ต้นกำเนิดของ Overlord III การประกาศสร้างและสตูดิโอผู้ผลิต
ในวันที่ 3 เมษายน 2018 มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าอนิเมะซีซันที่ 3 กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตโดยยังคงได้ สตูดิโอ Madhouse เป็นผู้ผลิต
โดยมี Naoyuki Itō รับหน้าที่กำกับ และ Yukie Sugawara รับผิดชอบด้านเขียนบท ตามสไตล์ของซีซันก่อน ๆ
วันออกอากาศครั้งแรก – วันสุดท้าย และจำนวนตอนทั้งหมด
ออกอากาศครั้งแรกในญี่ปุ่นวันที่ 11 กรกฎาคม 2018
ตอนสุดท้ายออกอากาศในวันที่ 2 ตุลาคม 2018 จำนวนตอนรวมทั้งซีซันมีทั้งหมด 13 ตอน
การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์
เว็บไซต์ Anime UK News ให้คะแนนซีซันนี้ 7/10 โดยยกว่ามีพัฒนาการที่โดดเด่นในการนำเสนอ “การสร้างอาณาจักรของ Ainz” แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง CGI นับถือว่าน่าติดตามอย่างมาก
ใน Overlord III เรื่องราวดำเนินต่อจากปราสาทนาซาริค ซึ่งนำโดย “ไอนซ์ อูล โกรว์น” ที่เริ่มขยายอำนาจผ่านการตั้ง “อาณาจักรแห่งเวทมนตร์นาซาริค” ภาคนี้แบ่งโครงเรื่องออกเป็นหลายเส้นทาง ทั้งการส่ง Lupusregina ไปแทรกซึมและช่วยชาว Carne Village ที่กำลังพัฒนาสมุนไพรเยียวยาใหม่
การสอดแทรกชีวิตและความหวังของตัวละครรองอย่าง Enri, Nfirea และชาวบ้าน ไปจนถึงกลุ่ม “คนงาน” หรือ “Workers” ที่บุกเข้าไปในสุสานของนาซาริคโดยไม่รู้ตัว และต้องเผชิญกับความรุนแรงที่แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและไร้ความปราณีของผู้ปกครองนาซาริค ทั้งนี้ ยังมีเส้นเรื่องหลักเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างอาณาจักรใหม่ของไอนซ์กับ “จักรวรรดิ Baharuth” ที่เริ่มมีแผนเลี่ยงพันธมิตรและวางแผนต่อต้าน
การปูพื้นเรื่องเหล่านี้เติบโตขึ้นจนถึงจุดที่เห็นชัดว่า Overlord III เป็นการเปิดเส้นทางไปสู่การพิชิตและการต่อสู้ในระดับยุทธศาสตร์อย่างเต็มตัว โดยยังคงรักษาจุดเด่นในด้านโลกแฟนตาซีแบบดาร์กและความเยือกเย็นของตัวเอกได้อย่างครบถ้วน
ไอนซ์ อูล โกรว์น (Ainz Ooal Gown) หรือ “โมมอน” เป็นจอมมารลำดับสูงสุดแห่งสุสานนาซาริค ผู้กลายมาเป็นผู้ปกครองอาณาจักรเวทมนตร์ใหม่หลังถูกดึงเข้าสู่โลกจริงภายในเกม ความนิ่งสงบและการคำนวณเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีพลังอำนาจเหนือใคร เช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมายที่จะขยายอาณาจักรอย่างเฉียบขาด
อัลเบโด (Albedo) เป็นซัคคิวบัสผู้บัญชาการสูงสุดแห่ง Floor Guardians เธอมีความจงรักภักดีและความหลงใหลที่ไม่สิ้นสุดในไอนซ์ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในด้านการเมืองและการประสานงานระหว่างอาณาจักรของนาซาริค
เดมีอูร์โกส (Demiurge) เป็นปีศาจชั้นสูงและหัวโขนด้านกลยุทธ์ของนาซาริค ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนการลับและการเมือง เขามีลักษณะโหดเหี้ยมและเพลิดเพลินกับการทดลองกับเชื้อชาติอื่น ๆ อย่างละเอียด เช่นเดียวกับความกระตือรือร้นในการวางแผนรุกคืบไปยังโลกภายนอก
โคคิวทัส (Cocytus) ผู้บัญชาการกองกำลังต่อสู้ที่เป็นรูปกึ่งแมลงน้ำแข็ง เขามีความภักดีต่อไอนซ์และแสดงความเคารพต่อความเป็นนักรบสูงสุด ถึงแม้ภายนอกจะดูน่ากลัว แต่ก็มีจิตใจที่ซับซ้อนและมีความเอาจริงเอาจังเมื่อปฏิบัติภารกิจ
เซบาส เทียน (Sebas Tian) เป็นบัตเลอร์ของนาซาริคซึ่งโดดเด่นด้วยอุดมการณ์แห่งความยุติธรรม เขาอาจดูเหมือนรับใช้เงียบสงบ แต่ในภาคนี้เขาได้รับบทบาทเด่นในการช่วยเหลือหมู่บ้าน Carne และถูกยกย่องโดยแฟน ๆ ว่าเป็น “แรงดุลของความดี” เมื่อเทียบกับ NPC ส่วนอื่น ๆ
ลูปุสเรกีนา เบต้า (Lupusregina Beta) สมาชิก Pleiades หนึ่งในกลุ่มสาวใช้ของนาซาริค เธอมีบทบาทสำคัญในการสอดแนมและร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่นจากโลกเก่า พร้อมยังพัฒนาแผนสนับสนุน moral ในการสำรวจพื้นที่ภายนอก
Overlord III เป็นภาคที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจาก “ผู้เล่นในโลกเกม” สู่ “จักรพรรดิแห่งโลกแฟนตาซี” อย่างแท้จริง โดยไอนซ์ อูล โกรว์นไม่เพียงแต่ปกครองสุสานนาซาริค แต่ยังเริ่มขยายอิทธิพลและวางรากฐานของ “อาณาจักรแห่งความมืด” ที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกใบนี้ ภาคนี้จึงเต็มไปด้วยกลยุทธ์ทางการเมือง การรุกทางทหาร และการวางแผนอย่างแยบยลที่ชวนติดตาม
ด้วยคุณภาพการผลิตจาก สตูดิโอ Madhouse และการกำกับที่แม่นยำของ นาโอยูกิ อิโตะ ทำให้ภาพรวมของ Overlord III ยังคงไว้ซึ่งความยอดเยี่ยม ทั้งในด้านการดำเนินเรื่อง การพัฒนาตัวละคร และความลุ่มลึกของธีมที่แฝงแนวคิดด้านอำนาจ ความยุติธรรม และการปกครอง